ด้ามชงแบบ Bottomless คือด้ามชงที่ไม่มีส่วนล่างของด้าม ไม่มีทางน้ำไหลเหมือนด้ามชงทั่วๆไป ข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดๆคือ ความสวยงามขณะสกัดกาแฟ แต่นอกจากความสวยงามแล้ว ด้ามชง Bottomless ยังมีข้อดีอีกมากมายดังนี้ค่ะ
1. สามารถสร้างสรรกาแฟให้ได้รสชาติที่หลากหลาย และได้กาแฟเข้มข้นขึ้น เนื่องจากไม่มีส่วนปิดด้านล่างของด้าม และไม่มีทางน้ำไหล จึงสามารถใส่ Basket แบบลึกได้ โดยบรรจุกาแฟได้ถึง 22 กรัม ซึ่งโดย Basket ของด้ามชงแบบทั่วไปจะบรรจุกาแฟได้เพียง 18-20 กรัม
2. เป็นตัวช่วยในการฝึกฝนการสกัดกาแฟได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถสังเกตุการไหลของน้ำกาแฟ ได้ตั้งแต่เริ่มกระบวนการที่น้ำกาแฟจับตัวเป็นหยดใต้ก้น Basket แล้วหยดลงมาเป็นสาย รวมตัวเป็นเส้นเดียว ไหลลงมาตรงกลาง โดยน้ำกาแฟจะมีสีอ่อนสลับเข้มเหมือนลายเสือ แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีอ่อนลงในตอนท้าย ซึ่งหากน้ำกาแฟ มีอาการไหลเอียงไปทางข้างใดข้างหนึ่ง หรือกระจายออก แสดงว่ายังทำกาแฟได้ไม่ดีนั่นเอง
3. ไม่สูญเสียครีมม่า ที่โดยทั่วไปอาจจะติดอยู่ที่ทางน้ำไหล และที่สำคัญคือ flavour ของรสชาติกาแฟที่ออกมาพร้อมครีมม่า จะหายไปบางส่วน ทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้ด้ามชง bottomless เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่ครบถ้วนกว่า
4. ความคงที่ของอุณหภูมิน้ำกาแฟ เนื่องจากหากเทียบกับด้ามที่มีทางน้ำไหล อุณหภูมิน้ำกาแฟที่ไหลออกมา อาจลดลงของบางส่วน จากการที่น้ำกาแฟ สัมผัสกับความเย็นของทางน้ำไหล โดยเฉพาะเมื่อบาริสต้าไม่วอร์มด้ามชง ให้ได้อุณหภูมิก่อนสกัดกาแฟ
5. ความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากส่วนล่างของด้ามเป็นลักษณะตัดตรง ไม่มีส่วนที่เป็นซอกมุมเล็กๆ ทำให้ทำความสะอาดง่าย ไม่เกิดกลิ่นตกค้างภายในด้ามชง และน้ำหนักเบา ช่วยให้บาริสต้าสามารถทำงานได้อย่างสบายมากขึ้น
6. สามารถวางแก้วทรงสูงได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะเครื่องชงกาแฟบางรุ่น ที่มีช่องวางแก้วไม่สูงนัก โดยเฉพาะเมื่อใช้แก้วมัค(แก้วกาแฟร้อนทรงสูง) จะช่วยให้สามารถนำแก้วออก โดยไม่ต้องเอียงแก้ว ทำให้กาแฟยังคงครีมม่า สวยงาม ไม่เลอะขอบแก้ว
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่าด้ามชงแบบธรรมดา จะใช้งานได้ไม่ดีนะคะเพื่อนๆ แต่ด้ามชงแบบ bottomless ถือเป็นอุปกรณ์พิเศษ ที่จะช่วยให้บาริสต้าสามารถชงกาแฟได้สะดวกขึ้นนั่นเองค่ะ